รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร Dawn of the Planet of the Apes ในมุมมองของเกรียนหนังไซไฟ

รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานรถือว่าเป็นหนังภาคต่อที่ทำออกมาได้ดีเรื่องหนึ่งเชื่อว่าหลายคนถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้จะต้องชอบอย่างแน่นอน สิ่งการันตีอย่างหนึ่งคือ ผลการโหวตจากเว็บไซต์ imdb.com หนังเรื่องนี้โกยคะแนนไปถึง 8.4 จากคะแนนเต็ม 10 ในมุมมองของเกรียนหนังไซไฟ รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร มีหลายประเด็นที่น่าสนใจลองมาดูกันครับ

ในความมืดมิดยังมีแสงสว่างเพื่อการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์

ถึงแม้ว่าเชื้อไวรัสจะระบาดไปทั่วโลกแต่มนุษย์ผู้อ่อนแอก็ไม่ได้ตายไปทั้งหมดยังเหลือมนุษย์บางกลุ่มที่พยายามต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอด นี่เป็นสิ่งที่เราจะพบเห็นได้ในหนังไซไฟหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นแนวผีซอมบี้ระบาดทั่วโลก เอเลี่ยนบุกโลก หนังไซไฟพวกนี้กำลังจะบอกเราว่าในความมืดมิดยังมีแสงสว่างมนุษย์ผู้อ่อนแอจะค้นพบหนทางที่ถูกต้องเข้าในวันหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะต้องสูญเสียไปมากแค่ไหนก็ตาม

สงครามความขัดแย้งจะอยู่คู่กับสิ่งมีชีวิตทุกประเภทไปตลอดกาล

ความขัดแย้งมีอยู่ทุกที่ไม่ว่าในมนุษย์ ลิง หรือในเอเลี่ยนนอกโลก (ผมคิดว่ามี) การจัดการกับความขัดแย้งมีหลายระดับเริ่มจากการแก้ปัญหาโดยวิธีการง่าย ๆ อย่างสันติจนถึงวิธีสุดท้าย คือ การทำสงคราม แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามเพราะมันมีแต่ความสูญเสีย แต่บางสถานการณ์สงครามก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถึงแม้ว่าจะเคยมีทางเลือกที่ดีกว่าในการจัดการกับความขัดแย้งเพราะมันสายเกินไปเสียแล้ว

ความจริงแล้วพวกเราต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด

แม้ว่าโลกของเราจะถูกปกครองโดยลิงหรือมนุษย์หรือสัตว์ชนิดไหน การไล่ล่าและการฆ่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ เพื่อเป็นอาหารและให้ตัวเองอยู่รอดยังคมมีอยู่ มันเป็นกฏของธรรมชาติหรือทั้งจักรวาลก็มิอาจทราบได้ มีผู้ล่าและผู้ถูกล่าอยู่เสมอ หนังช่วยย้ำเตือนในจุดนี้ให้พวกเราตระหนักในตัวเองว่าความจริงแล้วพวกเราต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดไม่ว่าคุณจะมีคุณธรรมในชีวิตมากแค่ไหนก็ตาม (อย่าบอกน่ะว่าอาหารเช้าพรุ่งนี้ของคุณไม่ได้มาจากการฆ่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น)

มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้หากขาดพลังงานและเทคโนโลยี

มนุษย์ค้นพบไฟเมื่อหลายแสนปีก่อนและหลังจากนั้นพวกเราก็ต้องพึ่งพาพลังงานตลอดเวลา ตัวอย่างใกล้ตัวที่เห็นได้ชัดคือ สมาร์ทโฟนในมือของคุณตอนนี้ที่ขาดพลังงานไฟฟ้าไม่ได้ บางคนที่ติดสมาร์ทโฟนมาก ๆ วันไหนไม่ได้ใช้นิ้วลูบไปบนหน้าจอสมาร์ทโฟนอาจลงแดงเลยทีเดียว พลังงานและเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ทุก ๆ วันคุณจะต้องเติมพลังงานเพื่อติดต่อ เพื่อทำงาน เพื่อสังคม เพื่อความทรงจำ เพื่อจีบสาว หรือติดตามกิจกรรมของคนรัก มนุษย์ขาดพลังงานและเทคโนโลยีไม่ได้ไม่ว่าวันนี้หรือวันพรุ่งนี้

มนุษย์จงใช้โอกาสของตัวเองให้คุ้มค่ามากที่สุด

อย่าลืมว่ามนุษย์แบบพวกเราทุกวันนี้ใช้เวลาหลายแสนปีในการพัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเทคโนโลยีสูงสุดบนโลกใบนี้ นี่เป็นโอกาสของพวกเราซึ่งถูกหยิบยื่นมาจากการสูญพันธุ์ของบางสายพันธุ์ หากย้อนไปหลายสิบล้านปีก่อนที่โลกโดนยึดครองโดยไดโนเสาร์หากไดโนเสาร์ยังคงมีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้ มนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมคงไม่มีโอกาสได้วิวัฒนาการ วันนี้และวันพรุ่งนี้เป็นโอกาสของพวกเรา เราควรสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ สร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองและสังคม

หากมองในมุมของความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมนุษย์ควรใช้โอกาสนี้ไปสำรวจดวงจันทร์ ดาวอังคารและดาวดวงอื่น ๆ เพราะถ้าพวกเราไม่ทำและเลือกที่จะอยู่อาศัยเฉพาะบนโลกใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งมนุษย์อาจต้องสูญพันธุ์ และเป็นโอกาสให้สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเช่นหมีหรือลิงวิวัฒนาการตัวเองจนสามารถไปเหยียบดวงจันทร์และดาวดวงอื่น ๆ แทนมนุษย์ก็อาจเป็นไปได้ หากมีใครย้อนเวลาไปพูดกับไดโนเสาร์และบอกพวกมันว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็ก ๆ ในยุคของพวกคุณวันหนึ่งจะสามารถวิวัฒนาการจนสามารถเดินทางไปเหยียบดวงจันทร์และดาวอังคารได้ พวกไดโนเสาร์คงหัวเราะและมองว่าคนคนนั้นบ้า!!!! (ประเด็นในย่อหน้าสุดท้ายเป็นส่วนขยายเพิ่มเติม ไม่เกี่ยวกับหนังเรื่องรุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร)

คุณค่าของความเป็นตัวบุคคลวัดกันที่การทำความดี

เราอยู่ในสังคมที่ใช้ความดีเป็นเครื่องวัดคุณค่าของตัวบุคคล ในบางกรณีหากทำสิ่งที่ไม่ดีจนยากที่จะให้อภัยคุณค่าของตัวบุคคลก็จะลดลง ตัวอย่างเช่น คุณได้ฆ่าเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของคุณตายไปเป็นจำนวนมากคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคุณก็จะถูกสังคมลดค่าลงในทันที ดูเหมือนการทำความดีจะเป็นกฏเกณฑ์ของธรรมชาติอีกข้อหนึ่งของแต่ละเผ่าพันธุ์ มนุษย์ไม่ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเอง ลิงไม่ฆ่าลิงด้วยกันเอง หากเผ่าพันธุ์ไหนฆ่ากันเองเผ่าพันธุ์นั้นก็ยากที่จะดำรงอยู่ได้ เพราะมันจะนำมาซึ่งความล้มเหลวของสังคมและการไร้ซึ่งกฏเกณฑ์การดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์