นักฟิสิกส์ชื่อดังมิชิโอะ คะกุเชื่อมนุษยชาติจะค้นพบเอเลี่ยนต่างดาวในศตวรรษนี้
มิชิโอะ คะกุ (Michio Kaku) นักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ศาสตราจารย์วิทยาลัย City College of New York เชื่อว่ามนุษยชาติจะค้นพบเอเลี่ยนต่างดาวได้ในศตวรรษนี้แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าการติดต่อที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นไปในรูปแบบมิตรหรือศัตรูคู่สงคราม มิชิโอะ คะกุตอบคำถามผ่านทางเว็บไซต์ Reddit เกี่ยวกับประเด็นนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในช่วงแรกของการค้นพบยังไม่มีการติดต่อเกิดขึ้นเนื่องสัญญาณวิทยุจากต่างดาวใช้เวลาหลายปีแสงกว่าจะเดินทางมาถึงโลก การติดต่อกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีภูมิปัญญาอาจอยู่ในรูปของการรับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียวมนุษย์ไม่สามารถสื่อสารโต้ตอบกลับไปได้
SETI สถาบันค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาว
ปัจจุบันมีสถาบัน SETI ที่กำลังพยายามค้นหาสัญญาณวิทยุจากต่างดาวซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าสัญญาณวิทยุคือรูปแบบการสื่อสารที่สิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาทั่วไปสามารถสร้างขึ้นมาได้ สถานบัน SETI มีความสนใจระบบ Proxima Centauri เป็นพิเศษเนื่องจากอยู่ห่างจากระบบสุริยะประมาณ 4.2 ปีแสง ซึ่งถือว่าเป็นระบบดาวที่อยู่ใกล้ที่สุด
แนวคิดการจัดกลุ่มของอารยธรรมต่างดาว
ในปี 1964 นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์รัสเซีย Nikolai S. Kardashev ได้เสนอแนวคิดการจัดกลุ่มของอารยธรรมต่างดาวตามความสามารถในการใช้พลังงาน The Kardashev Scale ออกเป็น 3 ประเภท
- กลุ่มอารยธรรม Type 1 สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีภูมิปัญญาที่ใช้พลังงานจากดาวเคราะห์
- กลุ่มอารยธรรม Type 2 สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีภูมิปัญญาที่ใช้พลังงานจากดาวฤกธ์
- กลุ่มอารยธรรม Type 3 สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีภูมิปัญญาใช้พลังงานจากทั้งกาแลคซี่
อย่างไรก็ตามมีนักฟิสิกส์ทฤษฏีได้ระบุว่าการติดต่อกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีภูมิปัญญาอาจเกิดขึ้นในช่วงปี 2040 นอกจากนี้ยังมีนักฟิสิกส์ทฤษฏีชื่อดัง สตีเฟน ฮอว์คิงได้ออกมาเตือนว่าการติดต่อกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีภูมิปัญญาอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของมนุษยชาติเนื่องจากมนุษย์อาจโดนรุกรานจากสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีภูมิปัญญา หรืออาจได้รับผลกระทบจากเชื้อโรคหรือสารเคมีบางอย่างที่ไม่เคยพบบนโลก เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นบนโลกในยุคล่าอาณานิคม กลุ่มนักสำรวจจากยุโรปได้แพร่เชื่อโรคบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจให้กับชาวพื้นเมืองในอเมริกาใต้จนมีชาวพื้นเมืองติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก
ที่มาของข้อมูล
livescience.com, Twitter.com/michiokaku
